บันทึกการเดินทางสู่งานเปิดตัวชะปีล SPIEL2017 – DAY2

Start the fair

สมาชิกเริ่มขูดขี้ตาตื่นประมาณหกโมงนิดๆ ได้ และทยอยอาบน้ำกัน หลังจากกินมื้อเช้าอย่างง่ายเสร็จและง่วนกับการจัดของเล็กๆ น้อยๆ ก็ถึงเวลานัดกับพี่ปุ้ยซึ่งมารอหน้าที่พักของเราแล้ว ทั้งทีมจึงแบกสัมภาระเตรียมเดินทาง

เริ่มออกเดินทางตอนเจ็ดโมงสามสิบห้า ท้องฟ้ายังมืดสนิท เราเดินทางด้วยรถส่วนตัวของมาริโอ้ พ่อพระผู้ใจดี สามีของพี่ปุ้ย พอเดินทางได้ซักพักก็ถึงทางแยกไป Essen ซึ่งรถเริ่มติดแล้ว จนกระทั่งเวลา แปดโมงแปดนาทีก็มาถึงอาคารจอดรถ ซึ่งรถค่อนข้างแน่น เลยคุยกับพี่ปุ้ยว่าพรุ่งนี้จะนัดเจอกันเช้ากว่าเดิมมั้ย พี่ปุ้ยก็ตอบว่าอาคารมันเปิดแปดโมงนะแก นี่แปดนาทีมันก็จะเต็มแล้ว มาเร็วกว่านี้ก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี พอจอดรถเสร็จ ก็มีการถ่ายวีดีโอนิดหน่อย แต่ในทีมตกลงกันไว้ว่าในวันนี้จะไม่อัพโหลดวีดีโอกัน เนื่องจากเป็นการไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศไทย และเราจะร่วมอาลัยไปด้วยกัน พอเดินทางจากรถก็มาถึงบริเวณหน้าฮอลล์ พร้อมกระเป๋าใบใหญ่ที่ใส่เกมและสัมภาระไว้ ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขอตรวจกระเป๋าว่ามีสิ่งอันตรายมั้ย ก็เปิดให้ตรวจแต่โดยดี

พอถึงหน้าทางเข้า ก็ได้เจรจาสอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับบัตรที่สามารถเข้ามาจัดบู๊ทได้ก่อนเวลาเปิด ว่าได้ซื้อไปแล้วแต่ยังไม่ได้ไปรับบัตร พอได้บัตรก็เข้าไปในเพื่อเตรียมงานก่อน และสมาชิกท่านอื่นอยู่ภายนอกประตูทางเข้า พอเข้ามาข้างในงานซึ่งหลายบู๊ทอยู่ระหว่างเตรียมการ ก็จะพบถึงความอลังการของความใหญ่โต โอ่อ่า หรูหรา ภายในงานนี้ ระหว่างทางได้ถ่ายภาพบรรยากาศนิดหน่อยและมุ่งตรงไปจัดบู๊ทในงาน บริเวณบู๊ทจะเป็นโต๊ะไม้ยาวๆ สภาพก็ผ่านการใช้งานมาระดับนึง วางเรียงหน้ากระดานสองแถว โดยโต๊ะนึงต่อผู้ออกแบบเกมนึง พร้อมเก้าอี้อีกตัวนึง ระหว่างนั้น ก็เจอพี่เล็กแห่งลานละเล่น ซึ่งเข้ามาในงานอย่างรวดเร็วมาพบเราที่บู๊ทก่อน จากนั้นไม่นาน สมาชิกท่านอื่นๆ ก็ตามมา ประกอบด้วย มาริโอ้ พี่ปุ้ย ทัดนัน และน้องนันท์ (ผู้เป็นคีย์แมนสำคัญในภายหลัง) เริ่มต้นเพื่อให้น้องนัน พี่ปุ้ย และมาริโอ้ สามารถเล่นเกมพิซซ่ามาสเตอร์ได้ และเอาไปนำคนอื่นต่อได้ ต้องมีการทดลองเล่นก่อน รอบแรกทุกคนลองทดสอบเกมและผลจบลงที่มาริโอ้เป็นผู้ชนะ จากนั้นในบู๊ทเหลือเพียงสามหนุ่มและน้องนันท์ผู้ใจดี (หน้าคล้ายอิมเมจ เดอะวอยส์) ซึ่งน้องก็ทักทายและเริ่มด้วยการให้ของฝากเป็นช็อคโกแล็ตที่ซื้อมาให้ ระหว่างงานทุกกคนก็ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน ทั้งการแจกใบปลิวที่ สถาบันเกอเธ่ เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในการจัดพิมพ์และแปลข้อความสำหรับภาษาอังกฤษและภาษาไทย การถ่ายภาพบรรยากาศของงาน และการติดต่อกับค่ายเกมใหญ่สำหรับนำเสนอให้เค้าติดต่อซื้อเกมไปผลิตและจำหน่ายในภูมิภาคของเค้า ซึ่งวันนี้ความรู้สึกซาบซึ้งที่มาริโอ้และพี่ปุ้ยช่วยในเรื่องการเดินทางและการแนะนำการใช้ชีวิตที่เยอรมัน ทำให้เราตกลงกันว่าจะเอาตัวเกมต้นแบบยกให้กับมาริโอ้กล่องนึ่ง พร้อมการ์ดพิเศษเฉพาะแจกในงานที่ชะปีล และมะม่วงอบแห้งที่ซื้อจากสนามบินสุวรรณภูมิมาฝากพี่ปุ้ยแล้ว อีกคนนึงที่ขาดไม่ได้เลยที่ทำให้งานในวันนี้สำเร็จอย่างราบรื่นไปได้ด้วยดีคือน้องนันท์ (คนที่หน้าของอิมเมจ เดอะวอยส์ ไปเลียนแบบน้องนันเค้า) น้องเป็นคนที่ขยันขันแข็ง พูดอังกฤษได้ดี เยอรมันก็คล่องมาก ซึ่งเกินกว่าครึ่งของการเล่นเกมพิซซ่ามาสเตอร์นั้น ต้องให้น้องนันท์ช่วยนำเป็นภาษาเยอรมัน ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลืออันอบอุ่นนี้ คงไม่สามารถผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่นแน่ๆ

ในส่วนของของทีมสำรวจงาน ได้มีการเข้าพบกับโรงงานผู้ผลิต reviewer และ publisher ซึ่งก็ได้ประสบการณ์และข้อคิดอะไรหลายๆ อย่าง โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมตัวศึกษาหาข้อมูลของ publisher และการเตรียมข้อมูลของตัวเองให้ publisher ได้ (ในจุดนี้ต้องขอบคุณเอกสารที่เกอเธ่ช่วยแปลให้ ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระและทำให้การทำงานของเราสะดวกมาก) ว่าแต่ละรายมีความถนัดและชนิดของเกมที่จะจัดจำหน่ายเป็นสไตล์ไหน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาหากต้องการติดต่อกับจ้าวที่จะช่วยผลักดันเกมให้เราได้ นอกจากนี้จะต้องอาศัยความอดทนในการเจรจา เพราะทุกคนไม่ได้ว่างสำหรับรอต้อนรับเกมเราเสมอ แต่เป็นเราที่จะต้องไขว่คว้าหาเค้า ซึ่งจุดยืนนี้ทำให้เราต้องกลับมาตระหนักอีกครั้งว่า กลับมาจุดเริ่มต้นเสมือนไม่มีอะไรเลยในระดับโลก ทำให้จุดไฟในการทำงานของพวกเรามากขึ้นไปอีก และก็ได้ข้อคิดอีกอย่างที่ทำให้ก้าวเดินต่อไปได้คือต้องทำงานแล้วเรายังรู้สึกสนุกกับมันได้และมันยังทำให้เราสนุกต่อไปได้ ถึงแม้อาจจะล้มเหลวแต่มันก็สร้างประสบการณ์ข้อคิดให้เราแก้ไขและทำในครั้งหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม

สำหรับภาพรวมตลอดระยะเวลาที่อยู่ประจำบู๊ท ในช่วงก่อนเที่ยง คนน้อย ถึงน้อยมาก ซึ่งก็ค่อนข้างเงียบ นิดนึง คิดว่าเกมเราอาจไม่ได้มีคนสนใจมากเท่าไหร่นัก เพราะเป็นบู๊ทเล็กๆ ใช้พื้นที่ไม่ถึง 1% ของทั้งงานด้วยซ้ำ คนอาจจะสนใจน้อย แต่หลังเที่ยงเป็นต้นมา ก็มีคนทยอยมาเล่นเรื่อยๆ บวกกับเราไปเล่นบู๊ทข้างๆ ที่เป็น kick starter ชื่อเกม Biota เป็นเกมที่แฝงการให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตใกล้ขั้วโลกเหนือและทำให้คนตระหนักถึงมลภาวะต่างๆที่อาจกระทบต่อสิ่งมีชีวิตของขั้วโลกเหนือ ซึ่งคาดว่าจะขายต้นปีหน้า และเค้าก็แลกเปลี่ยนโดยการมาลองเล่นเกมพิซซ่าของทีมเราด้วย พ่อหนุ่มคนนี้เป็นชาวฮังการี ซึ่งเค้าพยายามแนะนำตัว ไอ่เราก็นึกว่าจะบอกเราทำไมว่าหิว (I’m Hungary) ตกลงนี่เราโง่เองสินะ อ้อ เค้าอายุแค่ 33 เอง แต่เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ หุ่นเฟิม และหน้าเด็กกว่าอายุมาก และเค้ายังเฟรนลี่มากๆ เอาเป็นว่ายินดีที่ได้เล่นเกมกันฮะ ตลอดทั้งวันก็มีคนมาทดสอบเกม ซึ่งคนที่ได้เล่นเกมทุกคนจะได้การ์ดพิเศษกลับไปคนละใบที่แจกเฉพาะในงานนี้เท่านั้น รวมทั้งวันมีคนเล่นและกรอกข้อมูลทิ้งไว้ให้ ทั้งหมด 10 คน อาจดูไม่มากนัก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความประทับใจหลายๆ อย่างที่ทุกคนช่วยสร้างให้พิซซ่ามาสเตอร์เดินมาถึงจุดนี้ แต่ที่ประทับใจจากการเล่นเกมมากคือผู้คนที่นี่คือเกมเมอร์ทั้งนั้น และมีความ GEEK มากกกก สำหรับเกมสุดท้ายของวัน เจอสุดยอด GEEk คนนึง เป็นหนุ่มร่างท้วมตัวใหญ่ที่เดินป้วนเปี้ยนแถวบู๊ทเราประมาณสามรอบ แต่รอบนี้เค้าพาเพื่อนต่างวัยมาด้วย ที่รอบนี้ประทับใจเพราะ พ่อหนุ่มร่างท้วมคนนี้ฟังภาษาอังกฤษที่ไม่ได้โปรมากของเราเข้าใจและอธิบายให้เพื่อนต่างวัยของเค้าได้อย่างฉะฉาน สำหรับการดำเนินเกมในครั้งนี้ มีคะแนนไล่เลี่ยกันมาก และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำเกมนี้มาคือผู้เล่นสามคนจบที่สกอร์เท่ากันทั้งสามคนซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งก็ประทับใจกันทั้งผู้เล่นและผู้คิดเกม แต่หลังจากคุยถึงความรู้สึกต่อเกมกันเสร็จ และลงชื่อให้ข้อมูลกับเราแล้ว ชายสูงวัยที่ร่วมเล่นด้วยกลับลืมการ์ดโปรโมชั่นพิเศษที่เราเตรียมไว้ที่บู๊ท ทั้งที่ชายคนนี้เค้าติดตามเกมนี้จาก Board game geek ว่าเป็นเกมไทยเกมแรกที่มาลง และเค้าก็มาเพราะจะมาเล่นเกมพิซซ่ามาสเตอร์ในงานนี้ให้ได้ด้วย เอาเป็นว่าถ้างานนี้ได้เจออีกจะหยิบให้ละกันนะครับ ถ้าจะไม่เจอกันอีกจะเก็บไว้ให้เผื่อเจอกันปีหน้านะครับ

พอหกโมงครึ่งทางทีมก็เริ่มรวมตัวและเก็บของเตรียมกลับ ซึ่งก็ได้แยกกับพี่เล็กและน้องนันท์ ที่หน้าฮอลล์ ส่วนพี่ปุ้ยและมาริโอ้ก็พาพวกเรามาส่งแต่แวะซุปเปอร์มาเก็ตแถวที่พักของเราก่อนเพราะจะซื้ออาหารมาปาร์ตี้มื้อเย็นกัน ซึ่งทีมงานก็คัดเลือกอาหารที่อยากกินกันอย่างขยันขันแข็งประหนึ่งชีวิตนี้ไม่เคยกินมาก่อน ซึ่งมื้อเย็นวันนี้ได้พิซซ่า ไส้กรอก สลัดมันฝรั่ง และผักดอง มาเป็นมื้อเย็นโดยพี่ปุ้ยเป็นคนปรุงให้และแอบเม้าเรื่องความพิธีพิถันในการกินไส้กรอกของคนเยอรมัน ซึ่งขัดกับสไตล์การกินอย่างง่ายๆ ของคนไทยแบบเราๆ เมื่อฟาดมื้อเย็นกันเรียบ ซึ่งอิ่มชนิดต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียวนั้น ก็ได้มาศึกษานวัตกรรมเครื่องล้างจานอัตโนมัติของที่นี่ มันใช้ง่ายมากขนาดลิงมาดูตัวอย่างก็ทำตามได้ ถ้ามันฉลาดพอ จากนั้นก็มานั่งลองเกม Photosynthesis ที่พี่ปุ้ยซื้อมา โดยเกมนี้เป็นเกมที่ไม่ดูไม่ซับซ้อนมาก แต่ก็สามารถทำให้ซับซ้อนได้ เกมนี้จะทำการปลูกต้นไม้ ทำให้โต แล้วตัดต้นไม้ ดูเหมือนง่ายนะ แต่ก็โชว์โง่ในเกมไปเหมือนกัน สุดท้ายจบก็แพ้และแยกย้ายกับพี่ปุ้ยตอนห้าทุ่มกว่าๆได้ พวกเราก็ทำภารกิจสรุปข้อมูล อาบน้ำและเข้านอน
ราตรีสวัสดิ์ ชาวไทยทุกท่าน……..

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.